วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2560




2017 Bugatti Chiron สุดยอดไฮเปอร์คาร์ 1,500 แรงม้ารุ่นใหม่ล่าสุดเปิดตัวแล้ว
    Bugatti ค่ายรถซุปเปอร์คาร์แดนน้ำหอมเผยโฉม Chiron ใหม่ล่าสุด ที่งานเจนีวามอเตอร์โชว์ 2016 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมขุมพลังแรงจัด 1,500 แรงม้า

Bugatti Chiron เป็นไฮเปอร์คาร์ที่สานต่อความสำเร็จจาก Veyron ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงรถโปรดัคชั่นที่เร็วที่สุดในโลกมาแล้ว ขณะที่ Chiron โฉมใหม่ก็มาพร้อมเครื่องยนต์แรงขึ้นกว่าเดิม รวมถึงตโครงสร้างแบบคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาทั้งคัน

ไฮไลท์เด็ดของ Chiron ต้องยกให้เครื่องยนต์เบนซิน W16 ความจุ 8.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์จำนวน 4 ลูก ให้กำลังสูงสุด 1,500 แรงม้า (PS) ที่ 6,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 - 6,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 สปีด

     ตัวเลขดังกล่าวช่วยให้ Chiron สามารถเร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 2.5 วินาที 0-200 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 6.5 วินาที และ 0-300 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 13.6 วินาที และหากใจกล้าพอก็จะสามารถขึ้นไปแตะความเร็วสูงสุดได้ถึง 420 กม./ชม. ซึ่งเร็วกว่า Veyron เดิมอย่างเห็นได้ชัด

   อย่างไรก็ดี Chiron ถูกพัฒนาให้มีขนาดตัวถังเพิ่มขึ้นจาก Veyron ในทุกมิติ โดยมีความยาวเพิ่มขึ้น 82 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 40 มิลลิเมตร สูงขึ้น 53 มิลลิเมตร รวมถึงหนักขึ้นกว่าเดิมอีก 155 กิโลกรัม ทำให้ Chiron มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 1,995 กิโลกรัม โดยตัวเลขสมรรถนะที่ได้ถูกอ้างอิงจากรุ่น Pre Production เท่านั้น ขณะที่โมเดลสำหรับส่งมอบให้ลูกค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากนี้

     ทั้งนี้ หากใครอยากได้คงต้องรีบหน่อย เพราะปัจจุบันมียอดสั่งจองไปแล้วกว่า 150 คัน ขณะที่ Bugatti จำกัดการผลิตเอาไว้ที่ 500 คันเท่านั้น
ส่วนราคาจำหน่ายของ Bugatti Chiron อยู่ที่คันละ 2.4 ล้านปอนด์ หรือราว 120 ล้านบาท... เท่านั้นเอง!





Bugatti Veyron 2014 เผยโฉมรุ่นส่งท้าย 1,500 แรงม้า ราคา 240 ล้านบาท!
ก่อนจะถึงคราวเปลี่ยนโฉมของซูเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลกอย่างบูกัตติ เวย์รอน (Bugatti Veyron) ทางค่ายก็เผยแผนการส่งท้ายด้วยรุ่นพิเศษที่ปรับแต่งอย่างแรงสุดยอดเพิ่มแรงม้าถึง 1,500 แรงม้า ซึ่งมุ่งมั่นให้ถึงความเร็วสูงสุด 450 กม./ชม.!

          บูกัตติ เผยว่า เวย์รอนรุ่น 1,500 แรงม้า จะเปิดตัวในปี 2014 โดยเป็นรุ่นสุดท้ายของเวย์รอนในโฉมนี้ และรถรุ่นส่งท้ายเจ้าของสถิติเร็วที่สุดในโลกคันนี้ มาพร้อมกับคำกล่าวที่ว่า สมรรถนะทัดเทียมจินตนาการ

          การดัดแปลงครั้งนี้ จะนำรุ่นสูงสุดในปัจจุบันอย่าง เวย์รอน ซูเปอร์สปอร์ต (Bugatti Veyron Super Sport) มาลดน้ำหนักลง 200 กิโลกรัมด้วยดีไซน์ใหม่ผสานคาร์บอนไฟเบอร์มากกว่าก่อน จากเดิมหนัก 1888 กิโลกรัม และเพิ่มกำลังจากเดิมที่มี 1,200 แรงม้าด้วยการดัดแปลงเครื่องเดิมคือ W16 เทอร์โบ 4 ตัวของเวย์รอน ซูเปอร์ สปอร์ต ที่เพิ่มความจุกระบอกสูบ และเสริมกำลังด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งอาจให้กำลังมากกว่า 1,500 แรงม้าเลยทีเดียว

          เนื่องด้วยเทคโนโลยียางรถยนต์ซึ่งยังไม่สามารถรองรับความเร็วสูงสุดในปัจจุบันได้มากไปกว่านี้ ทำให้บูกัตติ เวย์รอน ซูเปอร์ สปอร์ตทำความเร็วสูงสุดอย่างปลอดภัยได้เพียง 429 กม./ชม. เท่านั้น ซึ่งบูกัตติหวังจะทำให้ได้มากว่านี้ด้วยรุ่นล่าสุดที่ความเร็ว 450 กม./ชม. เลยทีเดียว โดยความเร็วระดับนี้ บูกัตติตั้งมูลค่าอย่างสมน้ำสมเนื้อไว้ที่ 7.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 240 ล้านบาท




McLaren 650S ราคา 26 ล้านบาท พร้อมให้เศรษฐีไทยจับจอง
McLaren Bangkok เปิดตัว McLaren 650S ในไทย ทั้งรุ่นตัวถังคูเป้และเปิดประทุน เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 3,800 ซีซี 650 แรงม้า ราคาเริ่ม 26 ล้านบาท

          แม็คลาเรน 650เอส (McLaren 650S) เป็นรถสปอร์ตจากอังกฤษที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2014 ที่ผ่านมา และล่าสุด ไฮเปอร์คาร์รุ่นดังกล่าวก็พร้อมให้ชาวไทยเป็นเจ้าของแล้ว โดยแม็คลาเรน แบงคอก (McLaren Bangkok) ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยได้นำมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานแสดงรถยนต์ Supercar & Import Car Show ครั้งที่ 5 ณ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี

          การออกแบบของ 650เอส นั้นเชื่อมโยงกับรถสปอร์ตรุ่นอื่น ๆ ในปัจจุบันของแม็คลาเรนอย่างชัดเจน ทั้งเส้นสายรอบคันที่ไหลลื่นแต่โฉบเฉี่ยวแบบแม็คลาเรน 12ซี (McLaren 12C) รวมทั้งกระจังหน้าทรงพลิ้วไหวที่ชวนให้นึกถึงซูเปอร์คาร์ไฮบริดของค่ายอย่าง แม็คลาเรน พี1 (McLaren P1) โดยเส้นสายทั้งหมดคำนึงถึงด้านอากาศพลศาสตร์เป็นอย่างดี ทำให้ทั้งสวยงามและเสริมสมรรนถนะการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม ไฟส่องสว่างของรถเป็นแบบ LED ให้แสงสว่างชัดเจนและมีอายุการใช้งานยาวนาน ล้ออัลลอยลายใหม่รัดด้วยยางจากพีเรลลี (Pirelli) ที่ออกแบบเพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ

ภายในเน้นความสปอร์ตจัดเต็ม คอนโซลหน้าหุ้มผ้าหนังอัลคันทาราเย็บด้ายสีเหลืองโดดเด่น พวงมาลัยและคอนโซลกลางตกแต่งด้วยลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะหนังคาร์บอนออกแบบรับกับสรีระเป็นอย่างดี ด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ติดตั้งมาให้ใช้งานกันครบถ้วน ทั้งระบบนำทาง ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบสั่งการด้วยเสียง และกล้องมองหลัง

          ระบบขับเคลื่อนของแม็คลาเรน 650เอส ใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 3,800 ซีซี กำลัง 650 แรงม้า แรงบิด 678 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ดูอัลคลัช 7 สปีด ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 2.9 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุด 333 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 10.5 กม./ลิตร

          ทั้งนี้ยังมาพร้อมระบบเบรก McLaren Airbrake ที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับรถแข่ง พร้อมด้วยระบบช่วงล่าง ProActive Chassis Control (PCC) ที่สามารถสั่งการปรับแต่งช่วงล่างได้ถึง 3 แบบ ประกอบด้วย Normal, Sport และ Track

          ไฮเปอร์คาร์ตัวแรง แม็คลาเรน 650เอส มีให้เลือกทั้งรุ่นตัวถังคูเป้ และรุ่นเปิดประทุน โดยรุ่นคูเป้มีราคาเริ่มต้น 26 ล้านบาท ส่วนรุ่นเปิดประทุนมีราคาเริ่มต้น 27 ล้านบาท ใครที่สนใจก็สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมของแม็คลาเรน แบงคอก ที่ห้างสรรพสินค้า สยาม พารากอน ได้เลยครับ





Nissan GT-R
นิสสันได้ประกาศราคาของ GT-R Nismo ไว้อยู่ที่ 149,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 4.85 ล้านบาท ซึ่งราคาสูงยิ่งกว่า Porsche 911 รุ่นเทอร์โบเสียอีก
GT-R Nismo เป็นเวอร์ชั่นพิเศษที่ถูกปรับปรุงขึ้นจากรุ่นเดิม โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงสุดกว่า 600 แรงม้า (bhp) และแรงบิดอีกกว่า 651 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังทั้งหมดไปยังล้อทั้งสี่ ด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัชท์คู่ 6 สปีด


     Nissan GT-R Nismo มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED ใหม่, เบาะนั่งแบบสปอร์จจาก Recaro, หน้าปัทม์และหน้าจอแสดงผลโทนสีแดงเพิ่มอารมณ์ดุดัน และเครื่องเสียงที่มาพร้อมลำโพง Bose ถึง 11 ตำแหน่งด้วยกัน




ferrari 458 italia ราคาในไทย 25.6 ล้านบาท รุ่นยอดฮิตของค่ายม้าลำพอง

เฟอร์รารี (Ferrari) ถือเป็นค่ายรถยนต์ยอดฮิตที่หลายคนใฝ่ฝัน อยากจะครอบครองและลองขับดูสักครั้งในชีวิต ด้วยดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่น หรูหราทั้งภายและนอกภายใน พร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ที่อยู่แถวหน้าของโลก จึงไม่แปลกที่ค่ายม้าลำพองจากอิตาลีจะเป็นขวัญใจของใครหลาย ๆ คน และในวันนี้ กระปุกคาร์ก็ขอนำเสนอรถยนต์ที่เรียกว่าเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จรุ่นหนึ่งของค่าย ถึงแม้จะเปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2009 แต่ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน นั่นก็คือ เฟอร์รารี 458 อิตาเลีย (Ferrari 458 Italia)

           เฟอร์รารี 458 อิตาเลีย เป็นรถสปอร์ตของที่สร้างขึ้นเพื่อสานต่อชื่อของเฟอร์รารี เอฟ430 (Ferrari F430) รถสปอร์ตยอดฮิตรุ่นก่อนของค่าย โดย 458 อิตาเลียเปิดตัวในงาน Frankfurt Motor Show ปี 2009 ด้วยการออกแบบที่เน้นความทันสมัย สวยคลาสสิก เส้นสายเน้นความพลิ้วไหวสวยงามด้วยลายเส้นโค้งมนตลอดคัน ไฟหน้ารูปทรงยาวไล่ไปถึงซุ้มล้อดูโดดเด่น ทั้งหมดเป็นฝีมือการออกแบบจากพินินฟารินา (Pininfarina) สตูดิโอออกแบบคู่บุญของม้าลำพองตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

           การออกแบบนอกจากจะได้ความสวยงามโดดเด่นแล้ว เส้นสายดังกล่าวยังช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์ โดยสร้างมาตรสร้างแรงกดทับ 140 กิโลกรัม เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็ว 250 กม./ชม. สามารถรับลมเข้าไประบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นการออกแบบที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างดีเยี่ยมเลย

เครื่องยนต์ของม้าคะนองรุ่นนี้ ถือเป็นของเด็ดทีเดียว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขนาด 4,500 ซีซี V8 จัดวางด้านหลังจับคู่กับเกียร์ดูอัลคลัช 7 สปีด โดยคำนึงถึงทั้งการถ่วงน้ำหนักและการรับอากาศ เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้ง โดยมีกำลังถึง 570 แรงม้า ถือเป็นเครื่องยนต์ที่มีความแรงต่อซีซีมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเฟอร์รารี มีกำลังถึง 127 แรงม้าต่อ 1000 ซีซีเลยทีเดียว ส่งผลให้ได้ทั้งกำลังที่สูงแต่ประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นก่อน ๆ และยังเรียกแรงบิดกว่า 80 เปอร์เซ็นต์จากรอบเครื่องยนต์ต่ำได้ ส่งผลให้รถพร้อมจะทะยานได้ทุกเมื่อ สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 325 กม./ชม.

           เฟอร์รารี 458 อิตาเลีย ยังมีระบบช่วยการขับขี่อีกมากทั้ง E-Diff และ F1-Trac ซึ่งเสริมการทำงานของระบบควบคุมรถ ให้รถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วฉับไวยิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมทั้งการยึดเกาะถนน การเข้าโค้ง รวมถึงควบคุมเบรก ABS คุณภาพสูง ช่วงล่างด้านหน้าใช้แบบวิชโบนคู่ ส่วนด้านหลังใช้แบบมัลติลิงก์ เน้นการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมและลดแรงกระแทกจากการขับขี่ได้มากทีเดียว โครงสร้างของรถสร้างขึ้นด้วยอะลูมิเนียมชั้นดีระดับเดียวกับการใช้งานในอวกาศ จึงมั่นใจได้ว่าตัวรถจะแข็งแรงและมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ

ปัจจุบัน เฟอร์รารี 458 อีตาเลีย ได้เพิ่มรุ่นพิเศษต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ทั้งรุ่นเปิดประทุนในชื่อเฟอร์รารี 458 สไปเดอร์ (Ferrari 458 Spider) และเฟอร์รารี 458 สเปชิเล (Ferrari 458 Speciale) ที่เน้นการตกแต่งใหม่ทั้งภายนอกและภายใน แถมเพิ่มสมรรถนะให้เร้าใจสุด ๆ อีกด้วย

           ด้านราคาจำหน่าย เฟอร์รารีได้ตั้งราคาจำหน่ายในต่างประเทศของ 458 อิตาเลียไว้ที่ 233,509 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.7 ล้านบาท ส่วนรุ่นเปิดประทุน 458 สไปเดอร์ก็ได้ตั้งราคาไว้ที่ 257,412 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8.4 ล้านบาท และรุ่นตกแต่งใหม่ล่าสุดอย่าง 458 สเปชิเลมีราคา 239,859 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.9 ล้านบาท ส่วนในประเทศไทยมีการนำเข้ามาจำหน่ายโดยบริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ส จำกัด ครบถ้วนทั้ง 3 รุ่น โดยรุ่น 458 อิตาเลียราคา 25.6 ล้านบาท, รุ่น 458 สไปเดอร์ราคา 32 ล้านบาท และรุ่น 458 สเปชิเลราคา 29 ล้านบาท

           ได้ทราบคุณสมบัติของม้าคะนองยอดนิยมตัวนี้ก็คงหมดความสงสัยแล้วว่าทำไมถึงได้รับความนิยมอยู่ ถึงแม้จะเปิดตัวมาหลายปีแล้วก็ตามที ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าเจ้าเฟอร์รารี 458 อิตาเลียจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ อะไรให้เกิดขึ้นกับวงการยานยนต์ได้อีกบ้างครับ...


วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560



Mclaren P1 ซูเปอร์คาร์ตัวแรง พลังงานไฮบริด

เปิดตัวแล้วสำหรับรุ่นโปรดักชั่นของ Mclaren P1 ในงาน Geneva Motor Show เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยจะพร้อมออกจำหน่ายในปลายปี 2013 นี้ โดยรถสัญชาติอังกฤษรุ่นนี้ จะผลิตออกมาเพียง 375 คันเท่านั้น

          รูปลักษณ์ภายนอกได้ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อให้เกิดแรงปะทะจากลมน้อยที่สุด และควบคุมรถได้อย่างราบรื่นแม้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง โดย Mclaren P1 ใช้โครงสร้างจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบา และแข็งแรงทนทานเหมือนรถฟอร์มูล่าวัน ส่วนภายในได้ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้มีความสะดวกสบาย ซึ่งเมื่อลองเข้าไปนั่งแล้วคุณจะรู้สึกประหนึ่งเหมือนอยู่ในเครื่องบินเจ็ทเลยทีเดียว ขณะที่แผงหน้าปัดเป็นแบบจอดิจิตอลเพิ่มความลงตัวยิ่งขึ้นไปอีก

Mclaren P1 ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 903 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง ยังใช้เครื่องยนต์แบบมอเตอร์ไฟฟ้า ถือว่าพิเศษมากสำหรับรถที่มีสมรรถนะระดับนี้ และเมื่อมีการนำเอาเครื่องไฮบริดมาใช้ทำให้ช่วยลดอัตราคาร์บอนไดออกไซด์ไปเกือบถึง 200 กรัมต่อกิโลเมตรเลยทีเดียว

          ที่พิเศษกว่านั้นคือ Mclaren P1 มาพร้อมกับระบบฟังก์ชั่นการขับขี่สุดเจ๋ง "Instant Power Assist System" (IPAS) และ  "Drag Reduction System" (DRS) ซึ่งปุ่มควบคุมระบบทั้ง 2 นี้ อยู่ที่แป้นพวงมาลัย โดยระบบแรกเป็นระบบสั่งการมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเรียกกำลังแรงม้าเพิ่มขึ้น ส่วนระบบที่สองคือระบบที่ควบคุมปีกหลังเพื่อลดแรงต้านของอากาศทำให้รถแรงขึ้นไปอีก

เห็นสมรรถนะเครื่องยนต์แล้วก็ต้องพูดถึงความเร็วของ P1 กันสักหน่อย โดยตัวรถมีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาน้อยกว่า 3 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

          สำหรับ Mclaren P1 ส่วนด้านราคานั้นก็เหมือนกัน สำหรับในประเทศต้นกำเนิดอย่างอังกฤษเริ่มต้นที่ 866,000 ปอนด์ หรือประมาณ 37 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่มีราคาค่าตัวสูงขนาดนี้เป็นเพราะทาง Mclaren จะผลิตออกวางจำหน่ายให้ได้จับจองจำนวนจำกัดตามจำนวนที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง





  Lykan Hypersport

เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า W Motors ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเลบานอน เปิดตัวซูเปอร์คาร์คันใหม่ล่าสุด พร้อมทุบสถิติเป็นรถยนต์แพงที่สุดในโลกด้วยราคา 2.2 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 110 ล้านบาท และผลิตเพียง 7 คันเท่านั้น

          โดยรถสปอร์ตสุดหรูคันดังกล่าวมีชื่อว่า LykanHypersport ถูกผลิตขึ้นโดย W Motors บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเลบานอน แต่ถ้าหนุ่ม ๆ สาวกรถสปอร์ตคันงามแบบนี้สนใจอยากจับจองซื้อหาเป็นเจ้าของแล้วล่ะก็ คงต้องรีบหน่อย เพราะในปีนี้รถรุ่นดังกล่าวนั้นถูกผลิตขึ้นเพียง 7 คันเท่านั้น โดยหลังจากการเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วที่งานมหกรรมยานยนต์ กาตาร์ มอเตอร์โชว์ มีการตั้งราคาขายรถ LykanHypersport ไว้สูงลิบลิ่วที่ราคา 2.2 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 110 ล้านบาท จนกลายเป็นรถยนต์ที่มีราคาแพงสุดในโลกคันล่าสุด ทำลายสถิติเหนือรถรุ่น Bugatti Veyron ซึ่งถูกเลือกเป็นรถสำหรับซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Batman ที่เคยทำราคาสูงสุดไว้ที่ 1.5 ล้านปอนด์

  ซูเปอร์คาร์ราคาแรงนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Ralph Debbas ผู้เคยสร้างสรรค์ผลงานกับ Aston Martin มาก่อน โดยเขาใช้เวลาถึง 6 ปีในการพัฒนาผลงานระดับมาสเตอร์พีซร่วมกับค่ายรถชื่อดังทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Magna Steyr Italia, RUF Automobile, Studiotorino, Viotti และ ID4MOTIO โดยในส่วนของขุมกำลังรถนั้น LykanHypersport มีอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร ภายในเวลา 2.7 วินาที เครื่องยนต์บล็อก 6 สูบนอน ทวิน-เทอร์โบ 750 แรงม้า

          อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ผู้ซื้อรถหรู LykanHypersport ไปทั้งหลายนั้นไม่ได้ใส่ใจที่ความเร็วรถว่าจะเร็ว แรงแค่ไหน เนื่องจากพวกเขาพอใจกับฟีเจอร์หรูหราทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังแท้สัมผัสที่ตัดเย็บด้วยด้ายทอง กรอบไฟ LED หุ้มเพชร ตัวรถที่ออกแบบ 3 มิติและแผงหน้าปัดรถยนต์อัตโนมัติ ทั้งนี้ ผู้ที่จับจองซูเปอร์คาร์รุ่นนี้จะได้รับนาฬิกาหรู Cyrus Klepcys เวอร์ชั่นพิเศษที่มีมูลค่ามากกว่า 200,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.7 ล้านบาทไปอีกด้วย